You are currently viewing ศูนย์ความเป็นเลิศด้านฟิสิกส์ พร้อมทีมผู้เชี่ยวชาญภายใต้ศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องเร่งอิเล็กตรอนและเลเซอร์อิสระย่านอินฟราเรด/เทร่าเฮิรตซ์ เพื่อเสริมแกร่งระบบนิเวศการวิจัยขั้นแนวหน้าของประเทศไทยให้การต้อนรับผู้เชี่ยวชาญด้านระบบเครื่องเร่งอนุภาคและการประยุกต์ใช้งาน จาก Kyoto University

ศูนย์ความเป็นเลิศด้านฟิสิกส์ พร้อมทีมผู้เชี่ยวชาญภายใต้ศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องเร่งอิเล็กตรอนและเลเซอร์อิสระย่านอินฟราเรด/เทร่าเฮิรตซ์ เพื่อเสริมแกร่งระบบนิเวศการวิจัยขั้นแนวหน้าของประเทศไทยให้การต้อนรับผู้เชี่ยวชาญด้านระบบเครื่องเร่งอนุภาคและการประยุกต์ใช้งาน จาก Kyoto University

เมื่อวันที่ 7 กันยายน  2566 รศ.ดร.ดวงมณี ว่องรัตนะไพศาล รักษาการแทนผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศด้านฟิสิกส์ พร้อมทีมผู้เชี่ยวชาญภายใต้ศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องเร่งอิเล็กตรอนและเลเซอร์อิสระย่านอินฟราเรด/เทร่าเฮิรตซ์ เพื่อเสริมแกร่งระบบนิเวศการวิจัยขั้นแนวหน้าของประเทศไทย ให้การต้อนรับ Professor Hideaki Ohgaki  ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบเครื่องเร่งอนุภาคและการประยุกต์ใช้งาน จาก Kyoto University ณ ห้องปฏิบัติการวิจัยเครื่องเร่งอิเล็กตรอนเชิงเส้น และเยี่ยมชมสถานีทดลองด้านเครื่องเร่งอิเล็กตรอนฯ รวมทั้งหารือเพื่อสร้างความร่วมมือในการพัฒนาระบบโพรงแสง (optical cavity) สำหรับผลิตแสงเลเซอร์อิเล็กตรอนอิสระย่านอินฟราเรดขั้นกลาง (MIR-FEL)

โดย ศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องเร่งอิเล็กตรอนและเลเซอร์อิสระย่านอินฟราเรด/เทร่าเฮิรตซ์ เป็นกิจกรรมภายใต้การสนับสนุนทุนวิจัยและนวัตกรรมของสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ ภายใต้การผลักดันของศูนย์ความเป็นเลิศด้านฟิสิกส์เพื่อเสริมแกร่งระบบนิเวศการวิจัยขั้นแนวหน้าของประเทศไทย มุ่งสู่การยกระดับการศึกษาวิจัยด้านวิทยาศาสตร์ระดับแนวหน้า ที่มุ่งเน้นการพัฒนาและยกระดับกำลังคน รวมทั้งพัฒนาสู่การเป็นศูนย์กลางกำลังคนระดับสูงของอาเซียนด้านเลเซอร์อิเล็กตรอนอิสระ โดยศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญฯ จะผลักดันและส่งเสริมให้มีการแลกเปลี่ยนบุคลากรกับเครือข่ายความร่วมมือที่มีศักยภาพจากในประเทศและต่างประเทศเพื่อการถ่ายเทคโนโลยีและองค์ความรู้ และสร้างนวัตกรรมที่มีมูลค่าสูงจากเลเซอร์อิเล็กตรอน ซึ่งรังสี MIR และ FIR/THz ที่เกิดจากเลเซอร์อิเล็กตรอนมีสมบัติเหมาะสมต่อการนำไปใช้ในงานวิจัยและการประยุกต์ขั้นแนวหน้า สามารถนำไปใช้ศึกษาระบบที่ซับซ้อน โดยยังมีจำนวนจำกัดแม้แต่ในระดับนานาชาติ ซึ่งจะเป็นการสร้างเทคนิคการวิเคราะห์ใหม่ ให้เกิดขึ้นเป็นแห่งแรกในประเทศและประชาคมอาเซียนจะทำให้เกิดองค์ความรู้ใหม่ที่มีศักยภาพสูง โดยมุ่งหวังและเปิดโอกาสให้นักวิจัยทั้งในประเทศและในประชาคมอาเซียนให้เข้าถึงเครื่องมือและเทคนิคการทดลองขั้น อันจะนำไปสู่ความก้าวหน้าทางการแพทย์ การสร้างมูลค่าเพิ่มผลผลิตทางเกษตรและอาหาร การวิจัยโบราณคดีเชิงนิติวิทยาศาสตร์ ตลอดจนงานวิจัยเชิงคุณค่าทาง ศิลปวัฒธรรม นอกจากนี้ในส่วนของภาคอุตสาหกรรมยังช่วยขยายขีดความ สามารถรองรับงานวิจัยจากภาคอุตสาหกรรมได้เพิ่มมากขึ้น สร้างสรรค์ นวัตกรรมหลากหลายชนิด ร่วมพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศผ่านความสัมพันธ์ ระหว่างวิทยาศาสตร์และอุตสาหกรรม อีกทั้งยังนำไปสู่การพัฒนาศักยภาพ บุคลากรของไทย สาขาอาชีพต่างๆ อาทิ นักวิทยาศาสตร์ นักฟิสิกส์เครื่องเร่งอนุภาค วิศวกรและช่างผู้ชำนาญการ เป็นต้น

แชร์เลย :